Monday, May 05, 2014

EURO2014 ตอน Venice & Basilica di San Marco

ด้วยความลำเอียงแบบเปิดเผย เราจะรีวิวเมืองในอิตาลีอย่างละเอียดมากกว่าฝรั่งเศส 

Venice หรือ Venezia เป็นเมืองที่มักเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ที่คนเดินทางด้วยเรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน และที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็นกอนโดลา เรือมหาสนุก

สำหรับคนที่มาด้วยเครื่องบิน สนามบินหลักของเวนิสคือ Marco Polo Airport  พอมาถึงสนามบิน ออกจาก ตม. ก็จะมี Counter ขายตั๋วรถบัสวิ่งเข้าเมือง รถบัสมีออกเป็นรอบๆ น่าจะประมาณทุก 20 นาที เรียกว่าการเดินทางค่อนข้างสะดวก

วันที่ไปเที่ยว เดินทางมาถึงเวนิสค่อนข้างดึก กว่าจะต่อรถบัสไปถึงตัวเมืองก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว แต่พอมาถึงเวนิสน่าแปลกใจมากที่ตรงสถานียังมีคนเดินกันเต็มไปหมด ไม่เหมือนว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนเลย

หัวใจของ Venice อยู่ที่ Piazza San Marco หรือ San Marco Square ซึ่งตรงนี้จะมีสถานที่เที่ยวหลายอย่างรวมกันอยู่เป็นกระจุก


ที่แรกที่ควรไปคือ Basilica di San Marco  ซึ่งดูจากรูปแล้วก็จะเห็นนั่งร้านน่าเกลียด เบื่อมากๆที่งาน Restoration ตามมาหลอกหลอนอยู่เรื่อย จริงๆแล้วด้านหน้าโบสถ์ San Marco นี่สวยงามมาก แต่สภาพตอนนี้ดูไม่ได้จริงๆ


โบสถ์ San Marco เป็นศิลปะแบบไบเซนไทน์ (Byzantine) ซึ่งมีการตกแต่งด้วยโมเสก (Mosaic) สีทอง โมเสกคือการสร้างรูปด้วยการเอาเศษหิน เศษแก้ว หรือวัสดุอื่นๆที่มีสีเฉพาะมาแปะรวมกัน


 ยังไม่ทันได้เข้าชมตัวโบสถ์ ก็ทึ่งในความสวยงามของศิลปะที่สร้างสถานที่แห่งนี้เสียแล้ว แต่ก่อนที่จะถลำลึกกับสถานที่ลงไปกว่านี้ กลับมาพูดถึงเรื่องเวนิสต่ออีกหน่อยจะดีกว่า 

- การเดินทาง เมืองนี้เค้าเดินทางด้วยเรือแทนรถเมล์ ซึ่งเรือแต่ละสายก็จะมีเส้นทางและป้ายที่จอดกำหนดไว้แล้ว สามารถเข้าไปดูเส้นทางและตารางเวลาได้ที่เวบไซต์ของ ACTV ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบเหมา ซึ่งก็มีหลายแบบตั้งแต่ 12,24,36,48 และ 72 ชั่วโมง แล้วก็แบบ 7 วัน ซึ่งแบบนี้จะคุ้มว่าเพราะตั๋วเรือ Single นี่ครั้งละ 7 ยูโรแน่ะ

- VENICE Card เป็นบัตรที่ใช้เข้า Museum ต่างๆแบบเหมา ดูจากสถานที่ซึ่งอยู่ใน List แล้วไม่ค่อยคุ้ม ไม่แนะนำให้ซื้อ

- ที่พัก แนะนำแค่สองแบบคือ ใกล้สถานีรถไฟ หรือ ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเช่น San Marco Square .. ถ้าเลือกแบบหลัง ไม่แนะนำให้จองโรงแรมที่ไกลท่าเรือเพราะเวนิสเป็นเมืองที่มีคลองเล็กคลองน้อยเป็นจำนวนมาก ถ้าโรงแรมอยู่ไกลท่าเรือก็จะมีโอกาสที่ต้องยกกระเป๋าข้ามคลองหลายรอบ เดี๋ยวจะหลังหักก่อนเที่ยวจบ

 
 กลับมาเที่ยวต่อกันดีกว่า ตอนนี้ก็สมควรแก่เวลาที่จะเข้าไปในโบสถ์ San Marco แล้ว ซึ่งที่นี่เค้าห้ามสะพายเป้เข้าไป ทุกคนจะต้องนำไปฝากเสียก่อน แต่ที่ฝากกระเป๋าดันอยู่คนละที่ ลองนึกดู ถ้าเกิดไปเที่ยวคนเดียว ต่อแถวเข้าโบสถ์อยู่นานแสนนาน พอถึงคิวจะได้เข้าดันโดนเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ออกไปฝากกระเป๋าก่อน จะอารมณ์เสียขนาดไหน  ปล. พอไปฝากกระเป๋า เจ้าหน้าที่จะบอกกับทุกคนว่า "1 Hour" เสมอ สงสัยกลัวคนมาฝากแช่ไว้ทั้งวัน ได้แต่คิดว่าจะบ้าเหรอเปล่า ใครจะสามารถดูข้างใน San Marco ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงกัน ????  สรุปว่าเราฝากไว้ 4 ชั่วโมง ตอนไปรับเค้าก็ไม่เห็นว่าอะไร

การเดินทางไป San Marco แบบง่ายสุดๆคือขึ้นเรือสาย 1 ซึ่งเป็นเรือหวานเย็นจอดทุกป้ายทำให้คนแน่นและเสียเวลามาก ถ้านั่งเรือสาย 1 จากสถานีรถไฟ (Venezia Santa Lucia) ท่า Ferrovia ไป San Marco ใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมงได้

ทางเลือกอีกทางที่ดีกว่าคือนั่งเรือสาย 2 แบบพิเศษ ซึ่งจะออกจากท่า Ferrovia ไปจอดที่ Rialto Bridge ไม่แวะระหว่างทาง ใช้เวลาแค่ 12 นาที จากนั้นเดินต่อไปอีกแว๊บเดียวก็ถึง San Marco แล้ว ขอเน้นอีกทีว่าให้นั่งสาย 2 แบบ "พิเศษ" ที่ไป Rialto Bridge นะ ก่อนขึ้นก็ถามเจ้าหน้าที่ก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะได้ไปสาย 2 ธรรมดาแทน 

ข้างใน San Marco มีจุดที่น่าสนใจอยู่ 4 จุดคือ 1. Basilica 2.Museum 3. Pala d'oro 4. Treasury


ส่วนที่เป็น Basilica เข้าชมฟรี แต่ส่วนอื่นต้องเสียเงิน รายละเอียดดูได้ที่ Official Website 

คำแนะนำก็ง่ายมากคือดูให้ครบทุกส่วน มาแล้วไม่ดูจะมาทำไมเนอะ สำหรับส่วน Treasury จะเป็นส่วนที่น่าสนใจน้อยที่สุด ไม่ค่อยมีของเด็ดๆเท่าไหร่ 

Pala d'oro เป็นฉากหลังของ Alter แบบ Byzantine ที่ว่ากันว่าเป็นชิ้นที่สมบูรณ์ที่สุด แอบถ่ายรูปมาได้เท่านี้



Museum เป็นส่วนที่ใช้เวลามากที่สุด อย่างแรกที่คงไม่มีใครพลาดก็คือรูปปั้นม้า 4 ตัวที่เรียกว่า The Horses of Saint Mark  ม้าที่อยู่ใน Museum นี่เป็นของจริง ส่วนชุดที่ถูกตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าโบสถ์ให้ตากลมตากแดดเป็นตัวก๊อปปี้


การมาดู Museum จะต้องเดินขึ้นมาชั้นบน ซึ่งจะมีจุดชมวิวให้ดูความสวยงามภายในโบสถ์และเป็นจุดที่คนแอบถ่ายรูปกัน นอกจากนั้นภายใน Basilica จะมีการเปิด Light Up เป็นเวลาอีกด้วย พอเปิดไฟแล้วสวยขึ้นกว่าแบบมืดๆเยอะเลย 

 ส่วนอื่นๆใน Museum ก็จะมีการนำ Mosaic มีจัดแสดง มีหลายๆอันที่ดูแล้วสวยดี อยากขโมยกลับมาติดข้างฝาที่บ้าน ถ้าดูข้างในเบื่อแล้วก็สามารถเดินออกมาที่ Balcony ด้านหน้าโบสถ์เพื่อดูวิวตรง San Marco Square ได้อีกด้วย เป็นส่วนที่รู้สึกว่าเสียเงินแล้วคุ้มที่สุด


ขอปิดท้ายตอนนี้ด้วย Mosaic ของสิ่งที่คล้ายๆมังกร มี 7 หัว 1 หาง

No comments: