Monday, May 05, 2014

EURO2014 ตอน Rialto Bridge, Accademia Bridge & Burano

ขึ้นชื่อว่าเป็นเวนิสก็ต้องนึกถึงคลอง มีคลองก็ต้องมีสะพานข้ามคลอง ในปัจจุบันเวนิสมีสะพานข้าม Grand Canal เพียงแค่สี่ที่เท่านั้นและ Rialto Bridge กับ Accademia Bridge ก็เป็นสองในสี่อันนี้

สะพาน Rialto เป็นสะพานหินที่ใหญ่มาก สามารถมีร้านค้าอยู่บนสองฝั่งสะพานและทางเดินยังแบ่งเป็นสามเลนเพื่อรองรับจำนวนคนมหาศาลที่เดินผ่านสะพานนี้ในแต่ละวันอีกด้วย ในสมัยก่อนสะพานนี้เป็นศูนย์กลางทางการค้าขายของเวนิส มีเรือสินค้าจากเมืองต่างๆ นำสินค้ามาลงตรงนี้ เดี๋ยวนี้ร้านค้าบนสะพานกลายเป็นร้านขายของฝากหมดแล้ว




สะพานอันต่อไปคือ Accademia Bridge ซึ่งอยู่ตรง Accademia Gallery ที่ไม่ได้ไปดูในครั้งนี้ แต่จริงๆแล้วที่นี่มีภาพวาดสำคัญอยู่ชิ้นนึง เป็นผลงานของ Leonardo Da Vinci  ที่ชื่อว่า Vitruvian Man


Vitruvian Man เป็นภาพวาดที่สื่อถึงสัดส่วนกายวิภาคของมนุษย์ตามทฤษฎีของปราชญ์ชาวโรมันที่ชื่อว่า Vitruvius เนื่องจากภาพนี้ถูกเขียนด้วยดินสอลงในกระดาษ ทำให้ตัวภาพมีความบอบบางมากและไม่สามารถนำมาจัดแสดงได้ตลอดเวลา แต่จะจัดแสดงเป็นครั้งๆไป เสียดายที่ในช่วงที่ไปเที่ยว ภาพนี้ไม่ได้ถูกจัดแสดง เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจไม่เข้าดู Accademia Gallery 

สิ่งพิเศษอีกอย่างของ Vitruvian Man ก็คือคำอธิบายที่เขียนอยู่ในรูปนั้นเป็นการเขียนแบบ Mirror Writing คือกลับซ้ายขวา ต้องส่องดูในกระจกถึงจะอ่านออก ซึ่งเป็นการเขียนที่ Da Vinci ใช้เป็นปรกติ

โค้งน้ำตรง Accademia Bridge มองเห็นยอดโดมของ Santa Maria della Salute และปากน้ำส่วนที่ Grand Canal ต่อกับทะเลเป็นมุมที่สวยมากมุมนึงของเวนิส 

จุดชมวิวอีกจุดนึงอยู่ตรง San Marco โดยหากมองจากท่าน้ำตรง San Marco ออกไป จะเห็นโบสถ์ San Giorgio Maggiore ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม  เป็นอีกมุมนึงที่มานั่งพักสายตาได้ ส่วนข้อมูลเรื่องค่านั่งเรือ Gondola ไม่สามารถบอกได้เพราะไม่ได้ถามมา แต่ได้ข่าวว่าค่อนข้างแพง


ถ้ามีเวลาเหลือสักครึ่งวัน ก็สามารถแวะไปเที่ยวเกาะบูราโนที่มีชื่อเสียงตรงที่บ้านแต่ละบ้านจะทาสีฉูดฉาดตัดกัน และมีผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นผ้าลูกไม้ ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนสนใจ เกาะบูราโนเป็นเกาะเล็กๆ เดินสัก 30-45 นาทีก็น่าจะทั่วแล้ว

การเดินทางไปเกาะบูราโนต้องนั่งเรืออย่างน้อยสองต่อ ถ้าเริ่มจากท่า Ferrovia ตรงสถานีรถไฟก็ให้นั่งเรือเบอร์ 3 ไปต่อเรือเบอร์ 12 ที่เกาะมูราโน(เกาะเป่าแก้ว) การเดินทางค่อนข้างใช้เวลานาน พยายามหาที่นั่งบนเรือให้ได้ดีกว่า ไม่งั้นต้องยืนกันขาแข็งเลยทีเดียว


สำหรับผู้ชื่อชอบภาพเขียน ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกสองอันคือโบสถ์ Santa Maria Gloriosa dei Frari ซึ่งมีภาพ Assumption of the Virgin ของ Titian และโบสถ์ Scuola San Rocco ซึ่งมีผลงานของเสร็จพ่อ Tintoretto ให้ดูอย่างจุใจ อย่าลืมไปโหลด Rick Steves Audio Guide App  ไปด้วย มีประโยชน์มากๆ ส่วนตัวไปดูครบทั้งสองที่แต่ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้ ถ้าใครสนใจศึกษาศิลปะยุค Renaissance ทั้งสองที่นี้เป็น A Must นะคร้าบ





No comments: