EUROPe in REWiND #005.2

ลงเขามาได้ เราก็เดินเข้าเมือง มาตามหาสิ่งก่อสร้างอันดับหนึ่งของ Innsbruck

"Goldenes Dachl"

หรือ ที่เรียกกันว่า "The Golden Roof"

ในสมัยของ Emperor Maximilian I นั้น รัฐ Bavaria ได้ทำสงครามกับรัฐ Tyrol อย่างหนักเรื่องเขตแดน 

โดย Bavaria เรียกเก็บเค่าเสียหายจากสงครามเป็นจำนวนมาก

รัฐทั้งสองได้ขอร้องให้ Maximilian เข้ามาช่วยจัดการปัญหา เค้าจึงเข้ามายึดอำนาจการปกครองเมือง Tyrol เสียเอง 

และรับจัดการหนี้ทั้งหมดให้ พร้อมทั้งกำจัดปัญหาการโกงกินจากเหล่าขุนนางอีกด้วย 

หลังจากจัดการปัญหาต่างๆเรียบร้อย Maximilian จึงให้สร้าง The Golden Roof ขึ้น 

เพื่อใช้เป็นที่ดูการแสดงและงานเฉลิมฉลอง ที่ถูกจัดขึ้นในพื้นที่ด้านล่าง 

นอกจากนั้นยังเป็นการแสดงออกถึงความมั่งคั่งของ Tyrol หลังปฏิรูป 

และแสดงบารมีของตัวเองอีกด้วย 

ถึงแม้จะเรียกว่า Golden Roof แต่หลังคาของระเบียงที่เห็น ไม่ได้ทำด้วยทองจริงๆนะ
แค่เป็นทองแดงเคลือบผิวต่างหาก

หันหลังให้ Golden Roof ก็จะเจอ Innsbruck's City Tower
ไม่แน่ใจว่าเค้าให้ขึ้นไปข้างบนได้หรือเปล่า 

 

เดินจากตรงนั้น ผ่านถนนคนเดินแค่แว๊บเดียว เราก็มาถึง Maria-Theresien-Strasse 

ซึ่งเป็นลานกลางเมือง ตรงกลางมีอนุสาวรีย์ St. Anne’s Column ตั้งเด่นเป็นสง่า

เนื่องจากเรามีเวลาไม่มากนัก จึงมาฝากท้องกับอาหารสิ้นคิด

บ่ายนี้เรามีนัดกับ Swarovski Crystal Worlds
หรือ Swarovski Kristallwelten

การเดินทางไปนั้นง่ายมาก เพราะทาง Swarovski จะมีรถทัวร์วิ่งรับคนจาก Innsbruck เป็นรอบๆ
ประมาณวันละ 4 รอบ รายละเอียดของป้ายที่จอดและเวลา สามารถดูได้จากเวบไซต์โดยตรง

นั่งรถประมาณ 30 นาทีก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
ซึ่งอยู่ที่เมือง Wattens ที่เป็นจุดกำเนิดของ Swarovski
สำหรับคนที่มี Innsbruck Card ให้นำไปแลกบัตรเข้าสถานที่จริงๆอีกครั้ง ตรง ticket office

บัตรตัวจริงหน้าตาแบบนี้แหละ ส่วนด้านหลังคือรถรับส่ง

ทางเข้าอยู่ใต้น้ำตกอ้วกของคนหน้าเขียว

ภายในแบ่งเป็นห้องๆ มีการโชว์คริสตัลในแบบต่างๆ ก็เดินดูไปเรื่อยๆ ไม่ wow มาก

เค้าบอกว่านี่คือ Infinity แต่ก็ดูไม่ออกว่ามันหมายความแบบนั้นได้ยังไง

ห้องนี้ดูหลอนๆ

ที่สวยที่สุดก็น่าจะเป็นอันนี้ ทัชมาฮาลจำลอง

อันนี้เป็นคริสตัลรูปเห็ดที่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ
ซึ่งเป็นห้องสุดท้ายแล้ว

และแน่นอน จบการทัวร์ เค้าก็พาคุณเข้าสู่ร้านขายของ
มีคนแขกและจีน ซื้อของกันอย่างเมามัน แต่ราคาแบบนี้ สำหรับเราแล้วคงได้แค่ดู
มีใครอยากรับคิตตี้ลดราคา 50% ตัวนี้ไปเลี้ยงไหม ?

หมีน้อยขอความรักอันนี้ชอบมาก แต่ถ่ายรูปมาก็พอละ ราคาเกินเอื้อมจริงๆ

หลังจากหลุดออกมาจากร้านขายของได้ เราก็ออกไปเดินเที่ยวในสวนรอบๆ
มีเขาวงกตให้เดินเล่นด้วย

พอเดินรอบสวนเสร็จ ก็ใกล้ถึงเวลาไปขึ้นรถกลับ Innsbruck 
จาก Swarovski รถบัสไปส่งตรงถึงสถานีรถไฟ Innsbruck Central Station (Innsbruck Hauptbahnhof)  
เราก็ขึ้นรถไฟกลับมิวนิคได้อย่างง่ายดาย

วันนี้ขอลองอาหารจีน Take Home บ้าง เคยเห็นในหนังฝรั่งบ่อยๆ ไม่มีโอกาสได้ลอง
แต่จะบอกว่าอาหารจีน (ปน Asia) นี้เป็นร้านของชาวเวียดนาม
รสชาติเค็มมาก ก็พอกินได้ ดีกว่ารสจืดเลี่ยนๆละกัน
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พอกินเสร็จเราก็อาบน้ำ เก็บกระเป๋า
พรุ่งนี้เราจะโบกมือบ๊ายบายมิวนิคแล้ว เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไป