ที่สนามบินมี Free Wifi ให้เล่นได้ 15 นาที ซึ่งก็เพียงพอกับการส่งข้อความบอกที่บ้านว่าถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว ส่วน Sim โทรศัพท์นั้นไม่มีขาย ต้องไปซื้อในเมืองเอานะ
การเดินทางจากสนามบินไปใจกลางกรุงปารีส ใช้รถไฟสาย RER B จาก Terminal 3 ไปสถานี Gare Du Nord ค่ารถไฟคนละ 10 ยูโร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ตู้ซื้อตั๋วรถไฟ RER B ตรงสนามบิน ไม่รับแบงค์ ใช้ได้แต่เหรียญหรือเครดิตการ์ดเท่านั้น ทำให้เราต้องไปต่อแถวซื้อตั๋วที่ Ticket Office แทนซึ่งตอนนั้นจำนวนคนที่ต่อแถวซื้อตั๋วผ่านตู้อัตโนมัติกับซื้อที่ Ticket Office ก็ยาวพอๆกัน อย่าลืมว่าตั๋ว RER B สามารถนำมาใช้ขึ้น METRO ตรงสถานี Gare Du Nord ต่อได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ว METRO ใหม่นะ
พอมาถึงที่พักเราก็เชคอิน อาบน้ำอาบท่า พร้อมลุย เป้าหมายแรกของเราคือ ... หาของกินเพราะหิวโคตรพ่อ
อาหารสิ้นคิดสำหรับทริปนี้คือ McDonald's เพราะหาได้ทุกเมืองและมั่นใจว่าพอกินได้ นอกจากนั้นถ้าคิดราคาต่อหัวแล้วค่อนข้างถูก เทียบกับการไปนั่งกินตามร้านปรกติซึ่งจะแพงกว่าและยังต้องทิปอีกด้วย
พอท้องอิ่ม เราก็เริ่มหาซื้อ 3G SIM ซึ่งตอนแรกเราตั้งเป้าไว้ว่าจะไปซื้อตรงร้าน Orange ใกล้ๆโรงแรม แต่พอไปถึงที่ร้าน พนักงานดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และดูเหมือนจะไม่มีซิมขาย เราก็เลยต้องไปซื้อที่ร้าน Orange สาขาถนน Champs-Élysées แทน พอได้ซิมเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปยัง iconic ของปารีส จะเป็นอะไรไปได้อีก นอกจาก La Tour Eiffel
มาครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจมาขึ้นหอไอเฟล เพราะวิวจากด้านล่างสวยกว่าเยอะ และจริงๆก็เคยขึ้นมาแล้ว 2 ครั้งด้วยแหละ
การเดินทางมาหอไอเฟล แนะนำให้ขึ้น METRO มาที่สถานี Trocadéro เพราะมีจุดถ่ายรูปตรงลาน Palais de Chaillot จากนั้นค่อยเดินไปที่หอไอเฟลแล้วเดินเลยไปด้านหลัง ถ่ายรูปจากสนามหญ้า (Champ de Mars) ก็จะได้รูปอีกมุม
หอไอเฟล สมควรแวะมาดูทั้งตอนกลางวัน และตอนกลางคืนจะได้ความสวยงามคนละแบบ นอกจากนั้นตอนสามทุ่ม จะมีการเปิดไฟกระพริบให้ดูเพียงแค่ไม่กี่นาที เพราะฉนั้นอย่าพลาด
หลังจากพอใจกับหอไอเฟลแล้ว เราก็มุ่งสู่จุดหมายถัดไป คือย่านมงมาร์ต (Montmartre) เพื่อไปชมวิวที่ Basilica of Sacré-Coeur จากหอไอเฟลก็ขึ้น METRO ไปลงที่สถานี Anvers แล้วเดินตามฝูงชนไป พอไปถึงหน้า Sacré-Coeur จะมีทางเลือกว่าจะขึ้น Cable Car ไปด้านบนเลยหรือเดินขึ้นไป ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพ เราก็แนะนำให้เดินนะ เพราะเป็นบันไดธรรมดา มีขนาดใหญ่และไม่ได้ชันอะไรนอกจากนั้นยังจะได้ถ่ายรูปและชมวิวไปด้วย
เท่าที่สังเกตดู ตรง Sacré-Coeur เหมือนเป็นจุดที่คนเค้ามานั่งพักผ่อน พักสายตา ชมวิวกรุงปารีสจากมุมสูง นอกจากนั้นยังมีพ่อค้าผิวดำคอยเดินมายัดเยียดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ตลอดเวลา
พี่คนนี้แกกำลังโชว์ความเหนืออยู่คือพี่แกเดาะลูกบอลพร้อมปีนป่ายเสาอันนี้ไปด้วย เก่งเวอร์มาก คนยืนดูกันเพียบ
เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไม่นาน ประมาณชั่วโมงนึง พอค่ำๆเราก็รีบกลับที่พัก เพราะวันแรกยัง Jet Lag อยู่ คือถ้านับเป็นเวลาเมืองไทยก็เที่ยงคืนแล้ว ตาจะปิด Zzz...
No comments:
Post a Comment