เราจะเริ่มใช้งานกันล่ะทีนี้ ก็เอา iPod เสียบเข้าไปเลย
เพื่อความกระชับต้องใส่ Credle เข้าไปด้วย
เริ่มฟังเพลงล่ััะ เพลงนี้เหมาะ ..
โชว์ลำโำพงกันหน่อย
สรุปเรื่องการใช้งาน เอามาชนกับ JBL Radial ละกัน เพราะเป็นตัวที่คิดจะซื้อ
ราคา
iPod Hi-Fi : 14,900 บาท
JBL Radial : 13,900 บาท
JBL ถูกกว่า 1,000 บาท
Feature
น้ำหนัก
iPod Hi-Fi : 15 (6.6) Kg.
JBL Radial : - (1.2) Kg.
ตาม Spec JBL เบากว่าเยอะ จริงๆก็คงเบากว่าเยอะเหมือนกัน
กำลังขับ
iPod Hi-Fi : 2.1 มี Woofer
JBL Radial : ไม่มี Woofer
ตรงนี้ iPod Hi-Fi ชนะเพราะมี Woofer
Outdoor usage
iPod Hi-Fi : ใส่ถ่านได้
JBL Radial : ไม่ได้
iPod Hi-Fi ชนะ
Power Source
iPod Hi-Fi : ใส่ Adapter ไว้ในตัวแล้ว มีแต่สาย Power เบาๆ
JBL Radial : Adapter+สายไฟ ภายนอก
iPod Hi-Fi ชนะ เพราะรวม Adapter เอาไว้เลย นี่คงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้น้ำหนักมาก
iPod intergration
iPod Hi-Fi : มี Cradle ให้ทุกแบบ, ไม่สามารถโหลดเพลงได้ขณะเสียบ iPod ไว้
JBL Radial : ไม่มีข้อมูล , มี USB Port ต่อตรงจาก computer เพื่อโหลดเพลง
ตรงนี้คงต้องให้ JBL ชนะ เพราะเราสามารถโหลดเพลงไว้ในขณะที่เสียง iPod ไว้
มีจุดนึงที่อยากให้รู้ไว้คือ iPod ของท่านอาจจะต้องถอด Case ออกเพื่อเสียบกับเครื่องเล่นพวกนี้
เนื่องจาก Case บางแบบหนามากจนทำให้เสียบ iPod ลงไปที่ Dock ไม่ได้
สรุป
ถ้าเอา Design ก็ซื้อ JBL Radial แต่ถ้าเอาคุณภาพเสียงก็ต้อง iPod Hi-Fi
ข้อเสียอย่างนึงของพวกนี้ก็คือถึงแม้จะมี Remote แต่ก็ไม่สามารถใช้แทน iPod ได้ เพราัะ Remote ทำได้แต่ Next,Previous,Play,Pause,Volume Up/Down เพราะฉนั้นถ้าเราจะเลือกเพลงที่ไม่ได้อยู่ใน Playlist ก็ยังต้องเดินไปที่ iPod ครับ
ไว้มีอะไรเพิ่มเิติมจะมาเขียนภาคสามต่อเน้อ ขอไปฟังต่อล่ะ :)
No comments:
Post a Comment